วันจันทร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ถ่านไร้ควัน

ถ่านไร้ควัน
ไฟแรง ร้อนนาน ขี้เถ้าน้อย ไร้สารก่อมะเร็ง
ผลิตโดย นายวันชัย ยืนยง
 นักศึกษาศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน
 ม.1 ต.โนนห้อม
 อ.เมืองปราจีนบุรี
 จ.ปราจีนบุรี 25000 โทรศัพท์ 083-0315-412

 


หน้าเตาของเตาเผาถ่านที่ผมทำขึ้นใหม่ ผมทำให้แคบกว่าเดิม
ในการเผาครั้งแรกความสูงของหน้าเตาเท่ากับความกว้างของอิฐบล็อก
   ในการเผาครั้งแรก ผ่านไป 6 ชั่วโมงควันไม่ขึ้นปล่อง นั่นก็คือ ความร้อนไม่เข้าไป
ไม่เกิดกระบวนการคาร์บอนไนเซชัน ผมเลยแก้ปัญหาโดยการขุดหน้าเตาให้ลึกลงไปอีก
ซึ่งสามารถแก้ปัญหานี้ได้ จนเผาถ่านได้สำเร็จ
ขั้นตอนการเผาถ่านในแบบของผม
    ผมจะแจ้งตัวแปรของการเผาถ่านของผมก่อน เพราะสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมือนกัน เวลาที่ใช้ในการเผาถ่านไม่เท่ากัน
  1. กิ่งไม้ยางพารา สภาพแห้ง
  2. เผาถ่านต่อเนื่อง ไม่ได้ทิ้งเตาให้ชื้น

1. ก่อไฟไล่ความชื้น ก่อไฟที่หน้าเตา ไม่ต้องพยายามเอาไฟใส่เข้าไปข้างในเตา 
ก่อไฟหน้าเตา
    จะใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ซึ่งในการก่อไฟไม่ต้องใจร้อนครับ ก่อไฟไปเรื่อยๆ  ในการก่อไฟตอนแรกควันจะขึ้นปล่องเพียงเล็กน้อย และค่อยๆ เพิ่มขึ้น ประมาณสามชั่วโมงครึ่งถึงชั่วโมงที่ 4 ควันจะขึ้นเต็มปล่อง  ควันร้อน และควันขึ้นแรง
ควันเต็มปล่อง
2. นับเวลาต่อจากนี้ไปอีก 1 ชั่วโมง หรือ ให้ไปหากระเบื้องเคลือบสีขาว หรือจานสังกะสีสีขาว มาอังตรงปล่องควัน แล้วสังเกตสีของน้ำส้มควันไม้ที่ได้จากการอังที่ปล่องควัน อังไปเรื่อยๆ ตอนแรกจะได้สีของน้ำส้มควันไม้สีใส หรือน้ำตาลอ่อน ตอนนี้ยังไม่สามารถเก็บน้ำส้มควันไม้ได้ เมื่อเห็นสีของน้ำส้มควันไม้เป็นสีน้ำตาลก็ให้เริ่มหรี่หน้าเตา (หยุดให้ไฟ)
3. หรี่หน้าเตา ในการหรี่หน้าเตาให้อากาศเขาน้อยที่สุด เพื่อจะได้เก็บน้ำส้มควันไม้นานๆ
การหรี่หน้าเตา ให้อากาศเข้าที่สุด จะขนาดไหนต้องลองดูครับ
4. เก็บน้ำส้มควันไม้ หลังจากนั้นเราสามารถเก็บน้ำส้มควันไม้ได้ไปอีก 2-3 ชั่วโมง อาจได้นานกว่านี้ถ้า ไม้สดหรือหมาด ขนาดไม้ใหญ่ หรือ หรือขนาดของการหรี่หน้าเตา อาจนาน 3-4 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้น
เก็บน้ำส้มควันไม้
5. หยุดเก็บน้ำส้มควันไม้เมื่อมียางเหนียวๆ สีดำออกมายกปล่องที่เก็บน้ำส้มควันไม้ออก แล้วดูปล่องควัน เมื่อควันใสมองเห็นขอบปล่องอีกด้าน
ควันเริ่มใส
6. เมื่อควันใสให้เปิดหน้าเตาเพื่อเพิ่มอุณหภูมิ ไล่สารทาร์ หรือทำให้ถ่านบริสุทธิ์ ขั้นตอนนี้ใช้เวลา 5-15 นาที เมื่อควันใส หรือปากปล่องแห้ง(เอานิ้วแตะปากปล่องดู)  ให้ทำการปิดหน้าเตา และปิดปล่องควัน
ปิดหน้าเตา
ปิดปล่องควัน
   เป็นอันเสร็จการเผาถ่าน การเผาถ่านไม่ได้ได้ใช้เวลาตายตัว ขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัยดังที่กล่าวมาเพราะฉะนั้น คนที่รักเผาถ่านต้องทดลองด้วยตัวเองเพื่อให้รู้แจ้งด้วยตัวท่านเอง
ส่วนคุณภาพของถ่านจะเป็นคาร์บอนหรือไม่ผมยังไม่ได้ทดลอง  หากได้ทดลองแล้วจะนำมาเสนอต่อไปครับ

วันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ผลิตภัณฑ์ข้าวมะลิชุมชนบรรจุถุง

ผลิตโดย 

          โรงสีข้าวชุมชนบ้านเกาะแร้ง            
 ม.2 ต.โนนห้อม 
             อ.เมืองปราจีนบุรี             
จ.ปราจีนบุรี   
25000
       โทรศัพท์   081-6639-609 

ราคาจำหน่าย ถุง(5 กิโลกรัม)       120 บาท
                       ถัง(15 กิโลกรัม)     360 บาท

ข้าวขาวมะลิ 105 และข้าวหอมมะลิมีความแตกต่างกันอย่างไร?

ข้าวหอมมะลิ ” เป็นข้าวที่มีคุณภาพดีที่สุดและราคาแพงที่สุดของประเทศไทย เป็นที่นิยมบริโภคทั้งในประเทศ และต่างประเทศสำหรับตลาดต่างประเทศ ผู้บริโภคที่มีฐานะดี มีกำลังซื้อสูงปัจจุบันการขยายปริมาณ การส่งออกมีลู่ทางแจ่มใสกว่าข้าวพันธุ์อื่น ๆ ปริมาณการส่งออกเพิ่มจาก 148 544 ตัน ในปี 2532 ในปี 2536 ประเทศที่เป็นลูกค้าข้าวหอมมะลิ ได้แก่ ฮ่องกง สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา คุณสมบัติที่ส่ง ให้ข้าวหอมมะลิเป็นข้าวคุณภาพสูง และข้าวเปลือกเรียวยาว ได้ขนาดมาตรฐานข้าวชั้นหนึ่ง เมื่อสีเป็น ข้าวสารจะได้ข้าว เรียว ยาว ขาวใส เป็นเงาแกร่งและมีท้องไข่น้อย ถ้าเป็นข้าวที่ข้าวสารก็มีกลิ่นหอมเมื่อหุงเป็นข้าวสุกก็จะรสชาติ ดี ข้าวหอมมะลิจัดเป็นข้าวที่มีอะมิโลสต่ำ คือ ประมาณ 12-18 ทำให้ข้าวสุกมีความอ่อนนุ่มนิ่มชื่อที่ผู้บริโภคและผู้ประกอบการค้าข้าวนิยมเรียกโดยเพี้ยนมากจาก “ ขาวดอกมะลิ ” และมีชื่อเป็นทางการว่า “ ขาวดอกมะลิ 105 ” ซึ่งมีความหมายว่า ประเภทข้าวขาว เพราะ ข้าวเปลือกมีสีขาว หรือสีฟาง และมีกลิ่นหอม คล้ายกลิ่นดอกมะลิสำหรับหมายเลข 105 นั้น ได้มาจาก ขึ้นตอนการปรับปรุงพันธุ์
มารู้จักและเรียนรู้การปลูกข้าวขาวดอกมะลิ 105 กันดีกว่า       
     
  *ข้าวขาวดอกมะลิ 105 เป็นพันธุ์ข้าวหอมที่ได้จากการนำข้าวพันธุ์พื้นเมืองจากนาเกษตรกร อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน 199 รวง มาปลูกเพื่อศึกษาพันธุ์และได้ข้าวรวงที่ 105 ที่มีลักษณะพิเศษ คือ มีกลิ่นหอม และเมล็ดอ่อนนุ่ม เมื่อนำมาหุงต้ม ดังนั้นจึงมีการปรับปรุงพันธุ์ให้บริสุทธิ์ตามหลักวิชาการจนได้พันธุ์ข้าวขาวดอกมะลิ 105 และ รัฐบาลประกาศให้ขยายพันธุ์ส่งเสริมการปลูกได้ตั้งแต่วันที่ 25พฤษภาคม 2502 เป็นต้นมา สำ หรับพื้นที่ปลูกข้าวขาวดอกมะลิ 105 ที่เหมาะสม ได้แก่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคกลางบางพื้นที่
*ลักษณะทั่วไป
1. เป็นข้าวเจ้าไวต่อช่วงแสง
2. เป็นข้าวต้นสูงประมาณ 140-150 เซนติเมตร
3. อายุเก็บเกี่ยว ข้าวจะออกดอกประมาณวันที่ 20 ตุลาคม และสุกแก่เก็บเกี่ยวได้ ประมาณวันที่20
พฤศจิกายนของทุกปี
4. ระยะพักตัวของเมล็ด ประมาณ 8 สัปดาห์
5. ขนาดเมล็ดข้าวกล้อง ยาว 7.5 มิลลิเมตร กว้าง 2.1 มิลลิเมตร หนา 1.8 มิลลิเมตร
6. ลักษณะเมล็ดข้าวเปลือก เมล็ดเรียวยาว ก้นงอน สีฟาง
*ข้อดีของพันธุ์ข้าวขาวดอกมะลิ 105 
1. มีกลิ่นหอม เมล็ดอ่อนนุ่มเมื่อนำ มาหุงต้ม
2. ทนต่อสภาพแล้ง ทนต่อดินเปรี้ยวและดินเค็ม
3. คุณภาพการขัดสีดี เมล็ดข้าวสารใส แข็ง มีท้องไข่น้อย
4. นวดง่าย เนื่องจากเมล็ดหลุดร่วงจากรวงได้ง่าย
5. เป็นที่ต้องการของตลาด ขายได้ราคาดี
*ข้อจำกัดของพันธุ์ข้าวขาวดอกมะลิ 105
1. ไม่ต้านทานโรคขอบใบแห้ง โรคใบสีส้ม โรคใบจุดสีน้ำตาล และโรคไหม้ และโรคใบหงิก
2. ไม่ต้านทานแมลงบั่ว  เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล
3. ต้นอ่อนล้มง่าย ถ้าปลูกในบริเวณที่ดินมีความ                                                                                              อุดมสมบูรณ์สูง

*การปลูกข้าวขาวดอกมะลิ 105 เพื่อให้ได้ผลผลิตสูง
1. คัดเลือกเมล็ดพันธุ์ให้บริสุทธิ์ ไม่ให้มีเมล็ดพันธุ์อื่นหรือสิ่งเจือปน เช่น เมล็ดวัชพืชและเปอร์เซ็นต์
การงอกสูง 80 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป
2. เลือกวิธีการปลูกและช่วงเวลาที่เหมาะสม
       2.1 ในเขตชลประทานที่ไม่มีปัญหาเรื่องน้ำ ควรทำ นาดำ หรือนาหว่านน้ำตมแผนใหม่ โดยนาดำ ให้
เริ่มตกกล้ากลางเดือน กรกฎาคม ปักดำ ต้นสิงหาคม แล้วข้าวจะออกดอกประมาณ 20 ตุลาคม และเก็บเกี่ยวได้ประมาณ 20 พฤศจิกายนของทุกปี ส่วนนาหว่านน้ำตมแผนใหม่ ให้หว่านประมาณปลายเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนสิงหาคม แล้วเก็บเกี่ยวในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน
       2.2 ในพื้นที่ฝนตกน้อยหรือฝนล่า ควรทำ นาหว่านหรือนายอด โดยช่วงเวลาปลูกที่เหมาะสมอยู่ระหว่างปลายเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนสิงหาคม และข้าวจะเก็บเกี่ยวได้ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน
3. การเตรียมดินเพื่อปลูกข้าวขาวดอกมะลิ 105



วันอังคารที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2559

การศึกษาต่อเนื่องการศึกษาเพื่อเรียนรู้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงโครงการเรียนรู้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงด้วยกระบวนการบัญชีครัวเรือน

การศึกษาต่อเนื่องการศึกษาเพื่อเรียนรู้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
โครงการเรียนรู้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงด้วยกระบวนการบัญชีครัวเรือน
ณ เทศบาลตำบลโคกมะกอก
ม.1 ต.โนนห้อม อ. เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี
วันที่ 28 มิถุนายน 2559